ผู้เขียน: Tnglaw
💥 ผ่าเศรษฐกิจ 2 ยุค! “ปรีดี” วางรากฐาน VS “ทักษิณ” จุดพลุ! แบบไหนโดนใจกว่า? 💥

เศรษฐกิจไทย! เปรียบเทียบแนวคิดปรีดี vs ทักษิณ ฟื้นฟูรากฐานเศรษฐกิจในแบบไหนใช่ที่สุด?

แนวคิดของปรีดี พนมยงค์
เน้นสร้างรากฐานใหม่ให้เศรษฐกิจไทย โดยใช้หลักสังคมนิยมและประชาธิปไตย รัฐเป็นเจ้าของทรัพยากรและสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น
- ระบบสังคมนิยมตามหลักประชาธิปไตย
- รัฐเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตหลัก
- เน้นการกระจายรายได้และทรัพยากรอย่างเป็นธรรม
- สนับสนุนกลุ่มชาวนา กรรมกร และชนชั้นรากหญ้า
จุดแข็ง: เน้นความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยสร้างรากฐานชาติในระยะยาว
จุดอ่อน: ยากที่จะทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็ว เนื่องจากชนชั้นนำไม่เห็นด้วย

แนวคิดของทักษิณ ชินวัตร
ทฤษฎีและนโยบายประชานิยม เติมเงิน เติมโอกาส จุดประกายเศรษฐกิจฐานรากขึ้น
- กองทุนหมู่บ้าน
- 30 บาทรักษาทุกโรค
- OTOP
- SML
- 1 ทุน 1 อำเภอ
จุดแข็ง: นโยบายท่านเห็นผลไว ประชาชนเข้าถึงได้จริง มีเงินมีทองหมุนเวียน แถมยังดึงเอกชนเก่งๆ เข้ามาช่วยพัฒนาบ้านเรา
จุดอ่อน:บางคนก็ว่าเราพึ่งพารัฐมากไปหน่อย แถมบางทีก็เน้นแต่เรื่องใกล้ตัว มองข้ามการพัฒนาโครงสร้างใหญ่ๆ ในระยะยาว
เทียบกันชัดๆ : ตรงประเด็น
ประเด็น | ปรีดี พนมยงค์ (2477) | ทักษิณ ชินวัตร (2544 เป็นต้นมา) |
---|---|---|
แนวคิดหลัก | สังคมนิยมแบบประชาธิปไตย เน้นพึ่งตนเอง | ทุนนิยมผสมประชานิยม เน้นสร้างโอกาส |
กลุ่มเป้าหมายหลัก | ชาวนา กรรมกร ปัญญาชนรุ่นใหม่ | คนรากหญ้า ผู้มีรายได้น้อย ธุรกิจเล็ก |
เครื่องมือสำคัญ | ธนาคารรัฐ, สหกรณ์, ภาษีเป็นธรรม, การศึกษา | กองทุนหมู่บ้าน, 30 บาท, OTOP, 1 ทุน 1 อำเภอ. |
บทบาทของรัฐ | เป็นเจ้าของหลัก กำกับตลาด | สนับสนุนให้ประชาชนทำมาค้าขายเอง |
แก้จนยังไง? | จัดสรรใหม่ กระจายที่ดิน ผลิตเอง | เติมทุน เพิ่มโอกาส กระตุ้นกำลังซื้อ |
พัฒนาชุมชนแบบไหน? | สร้างความเข้มแข็งผ่านสหกรณ์ การศึกษา | ลงเงินตรง ให้ชุมชนจัดการเอง |
นโยบายที่สำคัญของปรีดี พนมยงค์ ได้แก่ :
- การเปลี่ยนแปลงการปกครอง:
ปรีดีเป็นหนึ่งในผู้นำคณะราษฎรที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
- รัฐธรรมนูญ:
ปรีดีมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับแรกของไทย และให้ความสำคัญกับหลักนิติธรรมและการปกครองโดยกฎหมาย
- เศรษฐกิจ:
ปรีดีเสนอ “เค้าโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ” ซึ่งมีแนวคิดให้รัฐเข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมการค้าข้าว และการให้รัฐบาลเป็นผู้จัดสวัสดิการให้แก่ประชาชน
- ประชาธิปไตย:
ปรีดีให้ความสำคัญกับหลักประชาธิปไตยสมบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วยประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ ประชาธิปไตยทางการเมือง และทัศนคติทางสังคมที่เป็นประชาธิปไตย
- สวัสดิการสังคม:
ปรีดีเชื่อว่ารัฐบาลควรมีหน้าที่ประกันความเป็นอยู่ของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลผู้ที่เจ็บป่วย พิการ หรือชราภาพ
- การสร้างความเข้มแข็งของประเทศ:
ปรีดีมุ่งหวังให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม โดยเน้นการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
- เป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย:
แนวคิดและข้อเสนอของปรีดีเป็นส่วนสำคัญในการวางรากฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทย
- สร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจ:
แนวคิดของปรีดีเกี่ยวกับสวัสดิการสังคมและบทบาทของรัฐในการบริหารเศรษฐกิจได้สร้างความเปลี่ยนแปลงและความคาดหวังใหม่ๆ ให้กับสังคมไทย
- เป็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศ:
แนวคิดของปรีดีเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม ยังคงเป็นแนวทางที่น่าสนใจสำหรับการศึกษาและพัฒนาประเทศในปัจจุบัน
นโยบายที่สำคัญของทักษิณ ชินวัตร ได้แก่ :
1. นโยบายขจัดความยากจน
2. นโยบายพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพ
3. นโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้สมดุลและแข่งขันได้
4. นโยบายบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5. นโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
6. นโยบายพัฒนากฎหมายและส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
7. นโยบายส่งเสริมประชาธิปไตยและกระบวนการประชาสังคม
8. นโยบายรักษาความมั่นคงของรัฐ
9. นโยบายตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
บทสรุปแบบเข้าใจง่าย
ท่านปรีดี เหมือนสถาปนิกที่วางแผนสร้างบ้านใหม่ให้แข็งแรงตั้งแต่เสาเข็ม
ท่านทักษิณ เหมือนคนมาช่วยต่อเติมบ้านให้สวยงาม น่าอยู่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ถ้าเอาแนวคิดของทั้งสองท่านมารวมกัน อาจจะทำให้เศรษฐกิจบ้านเราเติบโตแบบมั่นคงและยั่งยืน พี่น้องมีกินมีใช้ ไม่ต้องกลัวน้อยหน้าใคร!
แล้วพี่น้องชาวไทย ล่ะครับ คิดว่าแนวทางไหนโดนใจกว่ากัน? หรืออยากให้มีนโยบายแบบไหนเพิ่มเติม? มาคอมเมนต์คุยกันได้เลย!
ท่านปรีดี เหมือนสถาปนิกที่วางแผนสร้างบ้านใหม่ให้แข็งแรงตั้งแต่เสาเข็ม
ท่านทักษิณ เหมือนคนมาช่วยต่อเติมบ้านให้สวยงาม น่าอยู่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ถ้าเอาแนวคิดของทั้งสองท่านมารวมกัน อาจจะทำให้เศรษฐกิจบ้านเราเติบโตแบบมั่นคงและยั่งยืน พี่น้องมีกินมีใช้ ไม่ต้องกลัวน้อยหน้าใคร!
แล้วพี่น้องชาวไทย ล่ะครับ คิดว่าแนวทางไหนโดนใจกว่ากัน? หรืออยากให้มีนโยบายแบบไหนเพิ่มเติม? มาคอมเมนต์คุยกันได้เลย!
โครงการ พัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน(SML)

🚀 เปิดทางสู้! กองทุนหมู่บ้าน 2568 โอกาสใหม่เพื่อชุมชนมั่นคง

ชุมชนร่วมใจพัฒนา: พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงจากภายใน (สำหรับชุมชนชนบท)
"ชุมชนร่วมใจพัฒนา" ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู แต่คือแนวทางที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์ชุมชนของเราให้ดีขึ้นได้ด้วยมือของเราเอง ลองนึกภาพดูว่า ถ้าเราทุกคนในหมู่บ้าน ร่วมมือกันคิด ร่วมกันทำ จะเกิดอะไรขึ้น?
🔍 5 จุดเด่นกองทุน SML ปี 68 ที่ชาวกองทุนหมู่บ้านต้องรู้!
- ✅ ใช้งบตามจำนวนประชากร 3 ขนาด (เล็ก-กลาง-ใหญ่)
- ✅ สร้างงาน-เพิ่มทักษะอาชีพทุกด้าน ทั้งผลิต-แปรรูป-ตลาด
- ✅ จัดซื้อจัดจ้างแบบยืดหยุ่น ไม่ต้องตามระเบียบราชการ
- ✅ ใช้งบร่วมกับหมู่บ้านใกล้เคียงได้
- ✅ ตรวจสอบโปรงใส 4 ชุด คณะทำงานคุมเข้ม
⏰ ระยะเวลาสำคัญ
- ✅ เตรียมพร้อมก่อนยื่นขอรับโครงการ เตรียม สำเนาใบสำคัญการจดทะเบียนนิติบุคคล + รับรองสำเนาถูกต้อง เตรียม สำเนางบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม ของปี 2566 และปี 2567 เตรียม สำเนาบันทึกการประชุมฯ หรือเอกสารที่มีมติรับรองการคณะกรรมการ กองทุนหมู่บ้าน (ชุดปัจจุบัน) หาก หมควาระ ให้รีบดำเนินการจัดเลือกใหม่ เตรียม สร้างการรับรู้ ให้สมาชิก และครัวเรือน ได้รับทราบล่างหน้าทั่วถึง
- ✅ เตรียมพร้อมเมื่อมีประกาศฯ รอแบบฟอร์มฯ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หนังสือนำส่ง/คำขอโครงการ/ รายงานประชุมประชาคม/ใบลงทะเบียน/รายชื่อคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน/และอื่นๆ รวบรวมเอกสาร ตามขอ 1. และ ข้อ 2. ส่งตามช่องทางที่กำหนด
- ✅ เตรียมดำเนินการหลังได้รับงบประมาณ เตรียมเก็บเงินจากผู้รับจ้าง (ร้อยละ 1) หักภาษี ณ ที่จาย ส่งสรรพากรพื้นที่ รายงานหลังการเบิกจ่ายเงิน (ภายใน 30 วัน) รายงานเมื่อดำเนินโครงการเสร็จสิ้น (กายใน 30 วัน) รายงานเมื่อดำเนินโครงการ (ครบ 6 เดือน)
กทบ การเตรียมความพร้อมล่วงหน้า มีชัยไปกว่าครึ่ง โครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง
📊 วงเงินจัดสรรตามขนาดชุมชน

เล็ก (≤500 คน: 3 แสนบาท | กลาง (501-1,000 คน): 4 แสนบาท | ใหญ่ (≥1,001 คน): 5 แสนบาท
📝 4 ขั้นตอนขอเงินทุนแบบง่ายๆ
- จัดประชุมหมู่บ้าน (ต้องมีผู้แทนครึ่งครัวเรือน + สมาชิกครึ่งกองทุน)
- เสนอโครงการผ่านระบบออนไลน์/เอกสาร
- รอตรวจสอบคุณสมบัติ (3 วันทำการ)
- รับโอนเงินผ่านธนาคารเป้าหมาย
💡 ต้นแบบโครงการเด็ด!
🏭 โครงการ ต่อยอดศูนย์ออกกําลังกายชุมชน งบประมาณ 47,380 บาท พื้นที่ดําเนินการ ชุมชนตาชี เทศบาลตําบลห้วยยอด อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ประธานกลุ่ม/โครงการ นายเทิดศักดิ์ หิรัญวัฒนะ
เงินกองทุนหมู่บ้านสามารถถูกยึดได้ไหม?

เงินกองทุนหมู่บ้าน ใครเป็นเจ้าของ? เจ้าหนี้จะมายึดได้หรือไม่ ?
หลายครั้งที่เราได้ยินข่าวว่าเจ้าหนี้พยายามที่จะยึดทรัพย์สินของลูกหนี้เพื่อชำระหนี้ แต่ทรัพย์สินบางอย่างก็ไม่สามารถถูกยึดได้ตามกฎหมาย หนึ่งในนั้นคือ "เงินกองทุนหมู่บ้าน"
คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๒๗/๒๕๖๗ ได้ตัดสินเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างชัดเจน โดยศาลฎีกาเห็นว่าเงินในบัญชีของกองทุนหมู่บ้าน ไม่ใช่เงินของจำเลยที่เป็นหนี้ แต่เป็นเงินของกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเฉพาะ
กองทุนหมู่บ้านมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนคือการเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ และช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้าน ดังนั้น เงินทุนเหล่านี้จึงต้องถูกใช้ไปในทางที่ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด
คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ ๒๒๗/๒๕๖๗ วันที่ ๒๓ เดือน มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
ความแพ่ง ระหว่าง นายอ้วน สุรินทร์ ที่ ๑ นายสุริยนต์ จันต๊ะ ที่ ๒ โจทก์ ธนาคารออมสิน ผู้คัดค้าน กองทุนหมู่บ้างหนองฮ่าง หมู่ที่ ๑๐ ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ จำเลย เรื่อง ตัวแทน (ชั้นบังคับคดี) จำเลย ฎีกาคัดค้าน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ลงวันที่ ๑๗ เดือน สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ศาลฎีกา รับวันที่ ๑๐ เดือน สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ทั้งสองคนละ ๒๓๔,๗๘๘.๕๓ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษายืน จำเลยยื่นคำร้องร้องขออนุญาตฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกา จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ทั้งสองขอให้บังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ออกหมายบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ทั้งสอง โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องว่า โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้มีคำสั่งอายัดเงินในบัญชีเงินฝากของจำเลยที่เปิดไว้กับ ผู้คัดค้าน บัญชีเลขที่ ที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๔๕๗๗ จำนวน ๙๙,๐๐๐ บาท และบัญชีเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๖๓๔๑ จำนวน ๑๙๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๒๘๙,๐๐๐ บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือแจ้งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยไปยังผู้คัดค้านแล้ว แต่ผู้คัดค้านมีหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า เงินฝากของจำเลยในบัญชีดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินต้องห้ามมิให้ยึดหรืออายัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๗ และเป็นทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๐๑ (๕) และผู้คัดค้านไม่ส่งเงินฝากของจำเลยในบัญชีดังกล่าวให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี โจทก์ทั้งสองเห็นว่าตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๑๔ ระบุว่าจำเลยไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ดังนั้น เงินฝากของจำเลยจึงไม่ใช่ทรัพย์สินของแผ่นดินที่ต้องห้ามมิให้ยึดหรืออายัด แต่เป็นทรัพย์สินที่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ขอให้ผู้คัดค้านสูงเงินฝากของจำเลยตามที่โจทก์ทั้งสองขออายัดรวมเป็นเงิน ๒๘๙,๐๐๐ บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี หากไม่ส่งขอให้ผู้คัดค้านชำระค่าสินไหมทดแทนเท่าจำนวนเงินดังกล่าวแก่โจทก์ทั้งสองตามประมวงกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๒๑ จำเลยยื่นคำร้องและคำคัดค้านในทำนองเดียวกันว่า เงินที่โจทก์ทั้งสองขออายัดทั้งสองบัญชีไม่ใช่เงินของจำเลย แต่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดินเพราะเงินในบัญชีแรกเป็นเงินที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้นำมาจัดสรรอุดหนุนแก่จำเลยเพื่อให้จำเลยบริหารจัดการแทนรัฐบาล ส่วนเงินในบัญชีที่สองเป็นเงินที่สมาชิกของจำเลยนำมาลงหุ้นและฝากไว้กับจำเลยซึ่งพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๖ (๓) บัญญัติให้เงินดังกล่าวเป็นทุนและทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินการของจำเลย จึงไม่อยู่ภายใต้การบังคับคดี ขอให้ยกคำร้องของโจทก์ทั้งสองและมีคำสั่งเพิกถอนการอายัดเงินฝากทั้งสองบัญชีดังกล่าว ผู้คัดค้านอื่นคำคัดค้านว่า จำเลยเป็นหน่วยงานของรัฐ เงินในบัญชีของจำเลยเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินต้องห้ามมิให้ยึดหรืออายัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๗ และเป็นทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ขอให้ยกคำร้องของโจทก์ทั้งสอง โจทก์ทั้งสองยื่นคำคัดค้านคำร้องขอให้เพิกถอนการอายัดของจำเลยว่า จำเลยไม่ได้มีฐานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เงินในบัญชีเงินฝากของจำเลยทั้งสองบัญชีจึงไม่ใช่ทรัพย์สินของแผนดินที่ต้องห้ามมิให้ยึดหรืออายัด ขอให้ยกคำร้องของจำเลย ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งเพิกถอนการอาอัดเงินในบัญชี ธนาคารออมสิน สาขาฝาง ชื่อบัญชีกองทุนหมู่บ้านหนองฮ่าง หมู่ที่ ๑๐ ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ บัญชีเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๔๕๗๗ และบัญชีเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๖๓๔๑ ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีให้เป็นพับ โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษากลับให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินของจำเลยที่ฝากธนาคารออมสิน สาขาฝาง บัญชีเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๔๕๗๗ จำนวน ๙๙,๐๐๐๐ บาท และบัญชีเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๖๓๔๑ จำนวน๑๙๐,๐๐๐ บาท ตามคำขอของโจทก์ทั้งสองหากธนาคารออมสิน ผู้คัดค้าน ไม่ส่งมอบเงินที่อายัดแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ให้ผู้คัดค้านชำระเงินเท่าจำนวนเงินที่อายัดแก่โจทก์ทั้งสองแทน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ส่วนที่เกิน ๒๐๑ บาทแก่โจทก์ทั้งสอง จำเลยฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา ศาลฎีกาตรวจสำนวน ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันในชั้นนี้รับฟังได้ว่า จำเลยไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ทั้งสองตามคำพิพากษา ใจทก์ทั้งสองตรวจพบว่าจำเลยมีเงินในบัญชีเงินฝากกับผู้คัดค้าน บัญชีเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๔๕๗๗ จำนวน ๙๙,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินที่จำเลยได้รับอุดหนุนจากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และบัญชีเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๖๓๔๑ จำนวน ๑๙๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินที่สมาชิกของจำเลยนำมาลงหุ้นและฝากเพื่อการถอน รวมสองบัญชีเป็นเงิน ๒๘๙,๐๐๐ บาท โจทก์ทั้งสองขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินทั้งสองบัญชีดังกล่าว เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือฉบับลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ ถึงผู้คัดค้านขอออายัดเงินทั้งสองบัญชีให้ผู้คัดค้านส่งเงินทั้งสองบัญชีไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดี แต่ผู้คัดค้านไม่ส่งเงินทั้งสองบัญชีดังกล่าวให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีและมีหนังสือลงวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ถึงเจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งว่า เงินทั้งสองบัญชีเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินต้องห้ามมิให้ยืดหรืออายัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๗ และเป็นทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๐๑ (๕) ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าเงินในบัญชีเงินฝากทั้งสองบัญชีของจำเลยที่โจทก์ทั้งสองขออายัดเป็น และเป็นเงินที่โจทก์ทั้งสองจะบังคับคดีได้หรือไม่ เห็นว่า จำเลยเป็นกองทุนหมู่บ้าน ตามมาตรา ๓ ประกอบมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านต้องจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือกองทุนหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดตั้งและการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยต้องดำเนินการยื่นคำขอจัดตั้งและจดทะเบือนกองทุนหมู่บ้านต่อนายทะเบียนตามตามระเบียบที่คณะกรรมการกองทุนทนหมู่บ้านและชุมชนมืองแห่งชาติกำหนด และมีฐานะเป็นนิติบุคคล ทั้งนี้ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐ ว่าด้วยการรับจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พ.ศ.๒๕๔๙ จำเลยจึงมิได้เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงมิใช่นิติบุคคลเอกชน แต่เป็นนิติบุคคลมหาชนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๕ (๑) เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการลงทุนเพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มรายได้ หรือสำหรับส่งเสริมและพัฒนาไปสู่การสร้างสวัสดิภาพและสวัสดิการ หรือประประโยชน์ส่วนรวมอื่นให้แก่ประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง (๒) เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนเพื่อธรรเท่าความเดือดร้อนเร่งด่วนสำหรับประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง (๓) รับฝากเงินจากสมาชิกและจัดหาทุนจากแหล่งเงินทุนอื่นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ (๔).. (๕)... ทั้งการดำเนินการของกองทุนหมู่บ้านต้องเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกำหนดและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีผู้รักษาการตามมาตรา ๒๙ กองทุนหมู่บ้านมีเงินและทรัพย์สินในการดำเนินการปรากฏตามมาตรา ๖ ของพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้แก่ (๑) เงินที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จัดสรรให้ (๒) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล (๓) เงินที่สมาชิกนำมาลงหุ้นหรือฝากไว้กับกองทุน (๔) เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่กองทุนหมู่บ้านได้รับบริจาคโดยปราศจากเงื่อนไขหรือข้อผูกพันใด ๆ (๔) ดอกผล รายได้ หรือผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุนหม้าน ทั้งนี้ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นั้น มาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน บัญญัติให้เป็น “หน่วยงานของรัฐ” และมีวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๑๑ และกองทุนหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา ๕ จึงเป็น “หน่วยงานของรัฐ” ที่มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐประเภทหนึ่ง ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อจัดทำภารกิจของรัฐในการสร้างศักยภาพและความเข็มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนและองค์กรชุมชนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรตอบแทน โดยเงินทุนและทรัพย์สินในการดำเนินการส่วนหนึ่งเป็นเงินอุดหนุนจากงบประมาณของรัฐ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน หรือแม้จะมีเงินบริจาคเข้ามาด้วย เงินบริจาคดังกล่าว มาตรา ๑๒ ของพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชวติ พ.ศ.๒๕๔๗ ก็บัญญัติว่าต้องไม่มีเงื่อนไขหรือข้อผูกพัน เนื่องจากเป็นการบริจาคเพื่อมาช่วยเหลือการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐ หรือแม้จะมีทรัพย์สินในส่วนที่เป็นรายได้ เช่นดอกผลหรือผลประโยชน์อย่างอื่น แต่เมื่อตัวกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐ ทรัพย์สินที่เป็นรายได้ของกองทุนย่อมเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน นอกจากนี้ การที่ มาตรา ๑๔ บัญญัติว่า “กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ" ก็เพียงเพื่อไม่ให้ต้องนำรายได้ส่งกระทรวงการคลังและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ทั้งนี้ก็เห็นความคลองตัวทางการเงินอันเป็นการยกเว้นหลักทั่วไปตาม มาตรา ๒๔ วรรคหนึ่ง แห่งวิธีการงบประมาณ พ.ศ.๒๕๐๒ ที่บัญญัติว่า “บรรดาเงินที่ส่วนราชการได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ไม่ว่าจะได้รับตามกฎหมายหรือระเบียบ ข้อบังคับ หรือได้รับชำระตามอำนาจหน้าที่หรือสัญญา หรือได้รับจากการใช้ทรัพย์สินหรือเก็บดอกผลจากทรัพย์สินของทางราช ให้ส่วนราชการที่ได้รับเงินนั้น นำส่งคลังตามระเบียบหรือข้อบังคับที่รัฐมนตรีกำหนด เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดเป็นอย่างอื่น" ดังนั้นเงินฝากในบัญชีเงินฝากกับผู้คัดค้าน เลขที่ ๐๕๐๖๗๐๙๔๔๕๗๗ จำนวน ๙๙,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติจัดสรรให้จำเลยเสียเพื่อเป็นเงินอุดหนุนจึงเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินที่ไม่อาจยึดหรืออายัดได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๗ และไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา ๓๐๑ (๕) ส่วนเงินฝากในบัญชีเงินฝากเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๖๓๔๑ จำนวน ๑๙๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินที่สมาชิกของจำเลยนำมาลงหุ้นและฝากเพื่อการออมก็เป็นเงินฝากของสมาชิกที่นำมาฝากตามวัตถุประสงค์ของการจัดกองทุนหมู่บ้านเพื่อสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนและองค์กรชุมชน ในหมู่บ้านตามหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ อันเป็นการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐ โดยยจำเลยมิได้มีเจตนารมณ์ในการรับฝากเงินเพื่อหากำไรในทางธุรกิจหรือพาณิชย์กรรม เงินจำนวนดังกล่าวที่ฝากไว้กับธนาคารผู้คัดค้านในบัญชีของจำเลย จึงเป็นเงินของสมาชิก มิไม่เงินของจำเลยที่จะยึดหรืออายัดเพื่อบังคับคดีชำระหนี้แก่โจทก์ทั้งสองได้ตามประประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๐๓ และมาตรา ๓๑๖ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินฝากในบัญชีของจำเลยทั้งสองปัญชีตามคำขอของโจทก์ทั้งสอง และให้ผู้คัดค้านชำระเงินเท่าจำนวนเงินที่อายัดแก่โจทก์ทั้งสอง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับเป็นให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ส่วนที่เกิน ๒๐๐ บาท แก่โจทก์ทั้งสอง ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาให้เป็นพับ. นายสุวิทย์ พรพานิช นายสถาพร ดาโรจน์ นายสุจินต์ เชี่ยวชาญศิลป์- พระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗: มาตรา ๕, ๖, ๑๑, ๑๒, ๑๔ (วัตถุประสงค์, ประเภทเงินทุน, สถานะกองทุน)
- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์: มาตรา ๑๓๐๗ (ทรัพย์สินของแผ่นดิน)
- ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง: มาตรา ๓๐๑ (๕), ๓๐๓, ๓๑๖ (การบังคับคดี, ทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิด)
- กองทุนหมู่บ้านคือนิติบุคคล: จัดตั้งตามกฎหมายเฉพาะ ไม่ใช่นิติบุคคลตาม ป.พ.พ. โดยศาลได้วินินฉัยประเด็นนี้ใจความ "จำเลยเป็นกองทุนหมู่บ้าน ตามมาตรา ๓ ประกอบมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านต้องจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือกองทุนหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดตั้งและการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยต้องดำเนินการยื่นคำขอจัดตั้งและจดทะเบือนกองทุนหมู่บ้านต่อนายทะเบียนตามตามระเบียบที่คณะกรรมการกองทุนทนหมู่บ้านและชุมชนมืองแห่งชาติกำหนด และมีฐานะเป็นนิติบุคคล ทั้งนี้ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐ ว่าด้วยการรับจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พ.ศ.๒๕๔๙ จำเลยจึงมิได้เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงมิใช่นิติบุคคลเอกชน แต่เป็นนิติบุคคลมหาชนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นั้น มาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน บัญญัติให้เป็น “หน่วยงานของรัฐ” และมีวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๑๑ และกองทุนหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา ๕ จึงเป็น “หน่วยงานของรัฐ” ที่มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐประเภทหนึ่ง ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อจัดทำภารกิจของรัฐในการสร้างศักยภาพและความเข็มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนและองค์กรชุมชนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรตอบแทน "
- เงินกองทุนมีหลายประเภท: เงินรัฐจัดสรร, เงินอุดหนุน, เงินสมาชิก, เงินบริจาค
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า"โดยเงินทุนและทรัพย์สินในการดำเนินการส่วนหนึ่งเป็นเงินอุดหนุนจากงบประมาณของรัฐ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน หรือแม้จะมีเงินบริจาคเข้ามาด้วย เงินบริจาคดังกล่าว มาตรา ๑๒ ของพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชวติ พ.ศ.๒๕๔๗ ก็บัญญัติว่าต้องไม่มีเงื่อนไขหรือข้อผูกพัน เนื่องจากเป็นการบริจาคเพื่อมาช่วยเหลือการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐ หรือแม้จะมีทรัพย์สินในส่วนที่เป็นรายได้ เช่นดอกผลหรือผลประโยชน์อย่างอื่น แต่เมื่อตัวกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐ ทรัพย์สินที่เป็นรายได้ของกองทุนย่อมเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน นอกจากนี้ การที่ มาตรา ๑๔ บัญญัติว่า “กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ" ก็เพียงเพื่อไม่ให้ต้องนำรายได้ส่งกระทรวงการคลังและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ทั้งนี้ก็เห็นความคลองตัวทางการเงินอันเป็นการยกเว้นหลักทั่วไปตาม มาตรา ๒๔ วรรคหนึ่ง แห่งวิธีการงบประมาณ พ.ศ.๒๕๐๒ ที่บัญญัติว่า “บรรดาเงินที่ส่วนราชการได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ไม่ว่าจะได้รับตามกฎหมายหรือระเบียบ ข้อบังคับ หรือได้รับชำระตามอำนาจหน้าที่หรือสัญญา หรือได้รับจากการใช้ทรัพย์สินหรือเก็บดอกผลจากทรัพย์สินของทางราช ให้ส่วนราชการที่ได้รับเงินนั้น นำส่งคลังตามระเบียบหรือข้อบังคับที่รัฐมนตรีกำหนด เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดเป็นอย่างอื่น" ดังนั้นเงินฝากในบัญชีเงินฝากกับผู้คัดค้าน เลขที่ ๐๕๐๖๗๐๙๔๔๕๗๗ จำนวน ๙๙,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติจัดสรรให้จำเลยเสียเพื่อเป็นเงินอุดหนุนจึงเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินที่ไม่อาจยึดหรืออายัดได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๗ และไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา ๓๐๑ (๕) ส่วนเงินฝากในบัญชีเงินฝากเลขที่ ๐๕๐๖๗๐๗๔๖๓๔๑ จำนวน ๑๙๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินที่สมาชิกของจำเลยนำมาลงหุ้นและฝากเพื่อการออมก็เป็นเงินฝากของสมาชิกที่นำมาฝากตามวัตถุประสงค์ของการจัดกองทุนหมู่บ้านเพื่อสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนและองค์กรชุมชน ในหมู่บ้านตามหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ อันเป็นการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐ โดยยจำเลยมิได้มีเจตนารมณ์ในการรับฝากเงินเพื่อหากำไรในทางธุรกิจหรือพาณิชย์กรรม เงินจำนวนดังกล่าวที่ฝากไว้กับธนาคารผู้คัดค้านในบัญชีของจำเลย จึงเป็นเงินของสมาชิก มิไม่เงินของจำเลยที่จะยึดหรืออายัดเพื่อบังคับคดีชำระหนี้แก่โจทก์ทั้งสองได้ตามประประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๐๓ และมาตรา ๓๑๖ "
- ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัว: มีไว้ช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่ของกรรมการหรือสมาชิก
- เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์ยึด: เงินกองทุนไม่ใช่เงินของจำเลยที่เป็นหนี้
ดังนั้น หากใครที่กำลังสงสัยว่าเจ้าหนี้จะสามารถมายึดเงินกองทุนหมู่บ้านได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะเงินเหล่านี้ไม่ใช่เงินส่วนตัวของลูกหนี้ แต่เป็นเงินของส่วนรวมที่ต้องใช้เพื่อประโยชน์ของคนในหมู่บ้าน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกองทุนหมู่บ้านได้มากขึ้นนะครับ
คำสำคัญ: กองทุนหมู่บ้าน, เงินอุดหนุน, ทรัพย์สินของแผ่นดิน, การบังคับคดี, เจ้าหนี้, ลูกหนี้
ลงพื้นที่ดันกองทุนชนเผ่า

แชร์
"อมก๋อยเร่งฟื้น 44 กองทุนหมู่บ้านฯ หลุดเพิ่มทุน 'ล้านที่ 2' หลังหยุดบริหาร-หนี้สะสม-ปัญหาภาษาพุ่ง!
เตรียมแผนลงพื้นที่ดันกองทุนชนเผ่าพร้อมลุยถนนสุดโหด
จังหวัดเชียงใหม่ – สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) สาขาเขต 1 ร่วมกับเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านระดับจังหวัดและอำเภออมก๋อย ประกาศแผนลงพื้นที่แก้ไขปัญหากองทุนหมู่บ้าน 44 แห่งในอำเภออมก๋อยที่ยังไม่ได้รับเงินเพิ่มทุนระยะที่ 2 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเฉพาะกลุ่มกองทุนที่บริหารงานหยุดชะงัก สมาชิกไม่ชำระหนี้ และเผชิญปัญหาความท้าทายเชิงพื้นที่แบบเฉพาะตัว

สถานการณ์กองทุนหมู่บ้านอมก๋อย: ปัญหาเรื้อรังที่ต้องเร่งแก้
อำเภออมก๋อยมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั้งหมด 95 กองทุน แต่มี 44 กองทุนที่ยังไม่ได้รับเงินเพิ่มทุนระยะที่ 2 (1 ล้านบาท) ตามนโยบายเดิมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยส่วนใหญ่เป็นกองทุนของชนเผ่าพื้นเมืองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร หลายกองทุนหยุดการบริหารจัดการมานานหลายปี ส่งผลให้:
สมาชิกไม่ชำระหนี้: เนื่องจากคณะกรรมการกองทุนหยุดทำงาน บางส่วนไม่ยอมปล่อยกู้แม้บัญชียังมีเงินหลักล้านบาท
งบดุลไม่ปิด: การไม่สรุปบัญชีประจำปีทำให้ขาดความโปร่งใส
อุปสรรคด้านภาษา: ต้องใช้ล่ามหรือผู้นำชุมชนช่วยสื่อสาร เช่น กรณีคลิปวิดีโอผู้ใหญ่บ้านจับไมค์อธิบายให้สมาชิกชนเผ่าเข้าใจ





แผนลงพื้นที่ฟื้นฟู: เตรียมความพร้อม-สลายทางตัน
ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเครือข่ายกองทุนฯ ระดับตำบลและอำเภอ เตรียมลงพื้นที่เพื่อ:
กระตุ้นการบริหารงาน: สนับสนุนให้คณะกรรมการกองทุนเร่งประชุมสมาชิก เตรียมเอกสารขอรับเงินเพิ่มทุน
แก้ปัญหาหนี้ค้าง: ประสานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ระดมกลไกปรับโครงสร้างหนี้
สร้างระบบติดตาม: นำเทคโนโลยีมาใช้ตรวจสอบการชำระเงินและปิดงบดุล

ความท้าทายเชิงพื้นที่: จากถนนสุดโหดถึงกำแพงภาษา
การเดินทางยากลำบาก: แม้ในฤดูแล้ง ถนนในอมก๋อยยังขรุขระ ส่งผลให้การเดินทางไปติดต่อธนาคารหรือหน่วยงานรัฐใช้เวลานาน
ปัญหาภาษาและวัฒนธรรม: ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าที่ใช้ภาษาท้องถิ่น จำเป็นต้องอาศัยล่ามหรือผู้นำชุมชนเป็นสื่อกลาง
- ขาดแคลนบุคลากร: ข้าราชการในพื้นที่ไม่คล่องภาษาชนเผ่า ขาดการมีส่วนร่วมของคนท้องถิ่นในกระบวนการพัฒนา
น้อง ผู้หญิง เป็น ลูกจ้าง เครือข่ายฯ ระดับอำเภออมก๋อย เป็น เชื้อสาย ชนเผ่า พูด&ฟัง ภาษา ออก น่าเห็นใจมากๆๆ ทำงาน ทุ่มเท มากกว่า รับผิดชอบ มากกว่า!!พนง. ลูกจ้าง สทบ หลายกี่โลขีด แต่ ทราบว่า ไม่ได้รับ เงินเดือน/ค่าตอบแทน จากการทำงาน มา 3 เดือนแล้ว!!!โอ! !!!พระเจ้า!!!!

เสียงสะท้อนจากพื้นที่: “ผู้บริหารต้องลงมาเห็นของจริง!”
ผู้ใหญ่บ้านในอมก๋อยรายหนึ่งเผยว่า “ผู้บริหารระดับสูงนั่งทำงานบนหอคอยงาช้าง ควรมาสัมผัสปัญหาเองบ้าง จะได้เห็นว่าการบริหารกองทุนในพื้นที่แบบนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขในรายงาน!” พร้อมยกตัวอย่างกรณีที่คณะทำงานต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเดินทางเพียงเพื่อชี้แจงนโยบายให้ชนเผ่าเข้าใจ
บทส่งท้าย:
ปัญหากองทุนหมู่บ้านในอมก๋อยสะท้อนความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทรัพยากรของชนเผ่าพื้นเมือง การแก้ไขต้องเริ่มจากการรับฟังเสียงชุมชนและออกแบบนโยบายที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต ควบคู่กับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนท้องถิ่นในกระบวนการตัดสินใจ — เพราะการพัฒนาที่แท้จริงต้อง “เห็นคนเป็นศูนย์กลาง”
By T.law
ข่าวยอดนิยม
-
โครงการ พัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน(SML)
-
อำนาจฟ้องคดีของกองทุนหมู่บ้าน
-
💥 ผ่าเศรษฐกิจ 2 ยุค! "ปรีดี" วางรากฐาน VS "ทักษิณ" จุดพลุ! แบบไหนโดนใจกว่า? 💥
-
การประชุมคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ครั้งที่ 1/2566
-
17 ปี สถาบันการเงินชุมชน
-
เปิดงบการเงิน สถาบันการเงินชุมชนหาดเจ้าสำราญ
-
ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด
-
พระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ.2547
-
โครงการตลาดประชารัฐ อำเภอปากเกร็ด ของดีวิถีนนท์
-
เงินกองทุนหมู่บ้านสามารถถูกยึดได้ไหม?
หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย

ปุ่มสำหรับแชร์
ข่าวกองทุนหมู่บ้าน
หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย
รายละเอียดเพิ่มเติม หลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Professional Thai Chef)
หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย

อบรมการใช้ระบบบริหารกองทุนหมู่บ้าน(VMF)

ปุ่มสำหรับแชร์
ข่าวเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน
การอบรมระบบบริหารกองทุนหมู่บ้านจังหวัดสมุทรปราการ
มาตรฐาน “กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองยุคใหม่”

ปุ่มสำหรับแชร์
นโยบายนี้ยังคงต่อเนื่องอยู่หรือไม่ ? เมื่อมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว
รัฐบาลโดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนก่อนที่รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งาติ ได้มีนโยบาย ด่วน เร่งตรวจสอบ “สถานะกองทุนหมู่บ้าน” เพื่อจัดระดับมาตรฐาน และแนวทางพัฒนา ยกระดับเป็น “กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองยุคใหม่” . คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เผยผลการประชุม ครั้งที่ 1/66 พบว่า มีหลายกองทุนที่ไม่มีการดำเนินงานแล้ว บางกองทุนประสบปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้น . หน่วยงานที่รับผิดชอบ จะเร่งดำเนินการสำรวจ และจัดระดับมาตรฐานการดำเนินงานของกองทุน คัดเกรดกองทุนทั่วประเทศ เพื่อนำมาพิจารณาแนวทางการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือต่อไป . ส่วนกองทุนที่ “ไม่มีการดำเนินงานแล้ว” อาจต้องพิจารณาหาตัวบทกฎหมายมาทบทวนว่าจะยุติการดำเนินงาน หรือปรับปรุงพัฒนาต่อ ตามแนวทางการบริหารงานของรัฐบาลที่มุ่ง “เพิ่มรายได้ให้ชุมชน” จนสามารถพลิกโฉมสู่การเป็นกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองยุคใหม่ ที่ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแท้จริง . อ่านเพิ่มเติม คลิก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/76109 #ไทยคู่ฟ้า #สื่อสารรัฐบาลไทย ——————-

“พวงเพ็ชร ”เอาจริง ลั่นเช็คบิลสถานะกองทุนหมู่บ้าน ดันคนรุ่นใหม่คุมกองทุนทั่วประเทศ
“พวงเพ็ชร ”เอาจริง ลั่นเช็คบิลสถานะกองทุนหมู่บ้าน ดันคนรุ่นใหม่คุมกองทุนทั่วประเทศ
วันนี้ (14 ธันวาคม 2566) เวลา 10.00 น. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 โดยมี นายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการเข้าร่วม
วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คณะอนุกรรมการชุดใหม่ได้ประชุมร่วมกัน ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 โดยมี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ได้รายงานการดำเนินงานของกองทุนฯ รวมถึงโครงการสำคัญที่รัฐบาลขับเคลื่อน เช่น โครงการสร้างการรับรู้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทะเบียน และพัฒนาระบบการลงทะเบียนเข้าร่วมศูนย์บ่มเพาะ One Family One Soft Power (OFOS) ภายใต้ยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติ และ โครงการ “โคเงินล้าน” นำร่อง ระยะที่ 1 รวมถึงได้รายงานการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกองทุนชุมชนเมือง ในพื้นที่ และการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า จากรายงานการดำเนินงาน พบว่ามีหลายกองทุนที่ไม่มีการดำเนินงานแล้ว บางกองทุนประสบปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ บางกองทุนมีการบริหารจัดการที่ดี จึงได้สั่งการให้ สทบ. เร่งดำเนินการสำรวจ เพื่อจัดระดับมาตรฐานการดำเนินงานของกองทุน คัดเกรดกองทุนทั่วประเทศ เพื่อนำมาพิจารณาแนวทางการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ ส่วนกองทุนที่ No Active หรือ ไม่มีการดำเนินงานแล้ว อาจต้องพิจารณาหาตัวบทกฎหมายมาทบทวนว่าจะยุติการดำเนินงาน หรือปรับปรุงพัฒนาได้อย่างไร ทั้งนี้ ขอให้ตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานและติดตามสำรวจอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันขอให้ทาง สทบ. ดำเนินโครงการต่างๆ ตามแนวทางการบริหารงานของรัฐบาล “เพิ่มรายได้ให้ชุมชน” เพื่อพลิกโฉมสู่การเป็นกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองยุคใหม่ ที่ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแท้จริง
BUD แบนด์ใหม่ กับกองทุนหมู่บ้าน
เป็นเวลากว่า 20 ปีมาแล้วที่เรารู้จัก กองทุนหมู่บ้าน เป็นแหล่งทุนหมุนเวียนสำหรับการลงทุนและอาชีพให้กับคนในหมู่บ้านชุมชน แต่ในไม่ช้านี้ กองทุนหมู่บ้าน กำลังจะได้รับการรีแบนนด์ใหม่ เปลี่ยนชื่อให้ทันสมัยเป็น BUD (บียูดี) ตั้งเป้าเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น
ตรวจสอบกองทุนหมู่บ้านน้ำแพร่ดอยสะเก็ดเชียงใหม่.

ปุ่มสำหรับแชร์
ข่าวกองทุนหมู่บ้าน
จากการเปิดเผยของ นายวิทูรย์ มูลภิชัย ประธานสถาบันการเงินชุมชนแม่ขักพัฒนา แจ้งว่า ได้เข้าร่วมกิจกรรมตรวจสอบกองทุนหมู่บ้านน้ำแพร่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
ปัญหากองทุนหมู่บ้านน้ำแพร่ หมู่ที่ 2 ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังจากคณะกรรมการชุดเก่า ได้ไปกู้เงินธนาคารออมสิน แต่ไม่มีเงินจ่ายหนี้ และพบความผิดปกติ ค้างชำระภายในกองทุนกว่า 4 ล้านบาท ล่าสุดสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี ร่วมกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามและแก้ปัญหาดังกล่าว
รายการสถานีประชาชน ยกทัพทีมงานลงพื้นที่สัญจรที่วัดน้ำแพร่ ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ล้อมวงคุยสะท้อนความเดือดร้อน พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน ดังนี้
1. นายสุขสันต์ ใบแสง ประธานกรรมการ กองทุนหมู่บ้านน้ำแพร่ หมู่ที่ 2 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอดอยสะเก็ด
2. นายวิทูร มูลภิชัย ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านสถาบันการเงินชุมชนแม่ขัก
3. นายนิพนธุ์ ทิพย์ศร หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพด้านกฎหมาย ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)
4. นายจักรินทร์ สิรินทรภูมิ นายอำเภอดอยสะเก็ด
5. นายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
ติดตามรายละเอียดได้ในรายการสถานีประชาชน วันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 14.05 – 15.00 น. ทางไทยพีบีเอส
#ThaiPBS #ช่องหมายเลข3 #สถานีประชาชน #ทุกข์ปัญหามีทางออก
———————————-
“หอมดนตรี”จัดกิจกรรมประกวดร้องเพลงชิงเงินรางวัล 30,000 บาท

ปุ่มสำหรับแชร์
ข่าวตลาดประชารัฐ
จากการเปิดเผยของ ดร ภาสกร ฐิติธนาวนิช ประธานตลาดประชารัฐ อำเภอปากเกร็ด ของดีวิถีนนท์”แจ้งว่าตลาดประชารัฐจัดกิจกรรม ห้องดนตรี ของตลาดฯ ห้อง“หอมดนตรี”จัดกิจกรรมดีๆคืนความสุข เปิดโอกาสให้FCได้โลดแล่นบนเวทีแสดงความสามารถในการร้องเพลงทีตนเองหลงไหล สร้างความสุขแก่ผู้ฟัง ชิงรางวัลรวมกว่า30,000บาท
ข่าวยอดนิยม
-
โครงการ พัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน(SML)
-
อำนาจฟ้องคดีของกองทุนหมู่บ้าน
-
💥 ผ่าเศรษฐกิจ 2 ยุค! "ปรีดี" วางรากฐาน VS "ทักษิณ" จุดพลุ! แบบไหนโดนใจกว่า? 💥
-
การประชุมคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ครั้งที่ 1/2566
-
17 ปี สถาบันการเงินชุมชน
-
เปิดงบการเงิน สถาบันการเงินชุมชนหาดเจ้าสำราญ
-
ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด
-
พระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ.2547
-
โครงการตลาดประชารัฐ อำเภอปากเกร็ด ของดีวิถีนนท์
-
เงินกองทุนหมู่บ้านสามารถถูกยึดได้ไหม?